แนะนำ คีย์บอร์ด 75 เปอร์เซ็นต์ ที่ดีที่สุดจากทาง Keychron ในปี 2024
สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาวคีย์ครอนและคนรักคีย์บอร์ดทุกคน หากเพื่อนๆ กำลังมองหา คีย์บอร์ด 75 เปอร์เซ็นต์ ที่ตอบโจทย์การใช้งานในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์งาน การเล่นเกม หรือ การใช้งานทั่วไป อาจเคยพบกับคำถามที่หลายๆ คนตั้งขึ้นใน Pantip อย่างคำถามยอดฮิตว่า " คีย์บอร์ด 75 เปอร์เซ็นต์ รุ่นไหนดี? " ซึ่งเป็นคำถามที่หลายคนสนใจและต้องการคำตอบ
คีย์บอร์ด 75 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการความคล่องตัวในการใช้งานในพื้นที่จำกัด พร้อมกับฟังก์ชันที่ครบครัน
วันนี้ผมจะมาแนะนำสองรุ่นที่ไม่ควรพลาดจาก จาก Keychron คือ K3 Max และ K2 Max ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้ตอบโจทย์ทั้งคนที่กำลังมองหา คีย์บอร์ด 75 เปอร์เซ็นต์ แบบ Low Profile และ Normal Profile ลองไปดูกันว่าทำไมทั้งสองรุ่นนี้ถึงน่าสนใจ ถ้าพร้อมแล้วไปเริ่มกันเลยครับ!
คลิก! เลือกอ่านได้เลย
- Keychron K3 Max คีย์บอร์ด Low Profile 75 เปอร์เซ็นต์
- Keychron K2 Max คีย์บอร์ด Normal Profile 75 เปอร์เซ็นต์
- Low Profile vs Normal Profile
- แล้วแบบไหนเหมาะกับเรา?
- คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Keychron K3 Max คีย์บอร์ด Low Profile 75 เปอร์เซ็นต์
รุ่น : Keychron K3 MAX
ขนาด : Low Profile 75 เปอร์เซ็นต์
สเปคเด่นๆ
2.4 GHz / Bluetooth 5.1 / Type-C
รองรับ Keychron Web Launcher
Double-Shot PBT Keycaps
เพิ่มวัสดุซับเสียง (Acoustic Foam)
ไฟ RGB: ปรับแต่งได้ 22 รูปแบบ
Low-Profile Gateron Switch
รองรับการใช้งานกับ Mac และ Windows
รายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับใครที่มองหาคีย์บอร์ดบางเบา พกพาง่าย Keychron K3 Max นี่แหละคือคำตอบ ด้วยดีไซน์บางกว่าแบบปกติถึง 31% ทำให้ K3 Max เป็นคีย์บอร์ดแมคคานิคอลขนาด 75% ที่พกพาสะดวก ด้วยขนาด 306 มม. และ น้ำหนักเพียง 525 กรัม เหมาะสำหรับใช้งานทั้งในออฟฟิศหรือนอกสถานที่อย่างลงตัว
K3 Max รองรับการเชื่อมต่อหลายรูปแบบ ทั้ง 2.4 GHz, Bluetooth 5.1 และสาย USB-C ทำให้ เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ หรือแท็บเล็ต แถมแบตเตอรี่ขนาด 1550 mAh ยังใช้งานได้นานสุดๆ ถึง 78 ชั่วโมงเมื่อปิดไฟ RGB และ 40 ชั่วโมงเมื่อเปิดไฟ RGB ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องชาร์จแบตบ่อยๆ
จุดเด่นที่สำคัญคือ K3 Max มาพร้อม Acoustic Foam ที่ใช้ IXPE และ Latex Foam ทำให้การพิมพ์นุ่มนวลและมั่นคงกว่าเดิม ไม่ว่าจะพิมพ์งานหรือเล่นเกมก็ได้ฟีลสัมผัสที่ดีกว่า คีย์บอร์ด Low Profile ปกติทั่วไปตามท้องตลาด
อีกทั้ง K3 Max ยังรองรับ Hot-Swappable โดยสามารถเปลี่ยนสวิตช์ได้เองตามความชอบโดยไม่ต้องบัดกรี ทำให้สามารถปรับแต่งคีย์บอร์ดได้ง่ายและสนุกยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังสามารถปรับแต่งปุ่มคำสั่งผ่าน Keychron Web Launcher ได้ทันทีผ่านเบราว์เซอร์ โดยไม่ต้องเสียเวลาติดตั้งซอฟต์แวร์เพิ่มเติม
ด้วยคุณสมบัติทั้งหมดนี้ Keychron K3 Max จึงถือว่าเป็น คีย์บอร์ด Low Profile 75% ที่ตอบโจทย์ทั้งด้านการพกพาและการใช้งานได้อย่างครบครัน
Keychron K2 Max คีย์บอร์ด Normal Profile 75 เปอร์เซ็นต์
รุ่น : Keychron K2 MAX
ขนาด : Normal Profile 75 เปอร์เซ็นต์
สเปคเด่นๆ
2.4 GHz / Bluetooth 5.1 / Type-C
รองรับ Keychron Web Launcher
Double-Shot PBT Keycaps
เพิ่มวัสดุซับเสียง (Acoustic Foam)
ไฟ RGB ปรับแต่งได้ 22 รูปแบบ
Keychron Super Switch
รองรับการใช้งานกับ Mac และ Windows
รายละเอียดเพิ่มเติมหากเพื่อนๆ ชอบการพิมพ์ที่หนักแน่นและมั่นคง Keychron K2 Max เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ด้วยโปรไฟล์แบบ Normal Profile รองรับการเชื่อมต่อแบบเดียวกับ K3 Max ใช้งานได้หลากหลาย เหมาะทั้งที่บ้านและที่ทำงาน
K2 Max มาพร้อม Keychron Super Switch ซึ่งเป็นสวิตช์แมคคานิคอลรุ่นพิเศษ ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความแม่นยำและเสถียรในทุกการกด คีย์บอร์ดรุ่นนี้ยังมีขนาดที่เหมาะสม เนื่องด้วยการออกแบบองศาการพิมพ์ที่ปรับได้ถึง 3 ระดับ (5º, 9º, 12º) ทำให้พิมพ์ได้อย่างสบายๆ แม้ใช้งานเป็นเวลานาน
นอกจากนี้ K2 Max ยังมีการเพิ่มโฟม IXPE และ EDP ที่ช่วยลดเสียงรบกวนขณะใช้งาน ทำให้การพิมพ์นุ่มนวล เงียบขึ้น
K2 Max มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 4000 mAh ซึ่งสามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 256 ชั่วโมงเมื่อปิดไฟ RGB และ 168 ชั่วโมงเมื่อเปิดไฟ RGB ทำให้เราสามารถใช้งานได้ยาวๆ โดยไม่ต้องเสียบชาร์จบ่อยๆ
สำหรับวัสดุและการออกแบบของ K2 Max ได้รับการผลิตด้วยกรอบวัสดุ ABS+Aluminum ที่ทนทาน มีคุณภาพสูง ส่งผลให้คีย์บอร์ดแข็งแรงและมีอายุการใช้งานได้ยาวนาน โดยมาพร้อมกับคีย์แคปวัสดุ PBT แบบ Double-shot ที่ทนทานต่อการใช้งาน ไม่ซีดหรือขึ้นเงาง่าย แม้จะใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานาน
อีกทั้ง K2 Max ยังรองรับฟังก์ชัน Hot-Swappable ที่ให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนสวิตช์ได้ตามใจชอบโดยไม่ต้องบัดกรี และยังมาพร้อมไฟ RGB ที่สามารถปรับแต่งได้ถึง 22 รูปแบบ ทำให้คีย์บอร์ดดูโดดเด่น สวยงามได้ตามสไตล์ที่เราต้องการ
สุดท้ายนี้ K2 Max ยังรองรับ Keychron Web Launcher เช่นเดียวกับรุ่น K3 Max ซึ่งช่วยให้การปรับแต่งปุ่มคำสั่ง คีย์บอร์ดเป็นไปได้อย่างง่ายดายผ่านอินเทอร์เน็ตเบราว์เซอร์ โดยไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์ให้เสียเวลา
ด้วยคุณสมบัติครบครันทั้งหมดนี้ ทำให้ Keychron K2 Max เป็นคีย์บอร์ด Normal Profile ขนาด 75% ที่ลงตัวและตอบโจทย์ทุกการใช้งานได้อย่างดีเยี่ยมครับ
เปรียบเทียบ Low Profile vs Normal Profile
เมื่อพูดถึงการเลือกคีย์บอร์ดแมคคานิคอลขนาด 75% หนึ่งในตัวเลือกสำคัญที่ต้องพิจารณาคือการเลือกระหว่าง Low Profile Keyboard และ Normal Profile Keyboard ซึ่งทั้งสองประเภทมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน มอบประสบการณ์การพิมพ์ที่หลากหลายตามความชอบของแต่ละคน
คุณสมบัติ | Low Profile (K3 Max) | Normal Profile (K2 Max) |
---|---|---|
ความสูง | บางเบา | สูงกว่า |
ระยะการกด | สั้น รวดเร็ว | ลึกกว่า ให้สัมผัสชัดเจน |
เหมาะสำหรับ | พกพา, ใช้งานทั่วไป | เล่นเกม, พิมพ์งาน |
Low Profile Keyboard ขนาด 75% มอบความรู้สึกที่บางเบาและคล่องตัว การพิมพ์บนคีย์บอร์ดประเภทนี้มีความรวดเร็วนุ่มนวล เนื่องจากระยะการกดที่สั้นกว่า นอกจากนี้ ดีไซน์ที่บางยังทำให้พกพาสะดวก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการคีย์บอร์ดที่สามารถใช้งานได้ทั้งในออฟฟิศและนอกสถานที่ อีกทั้งการพิมพ์บน Low Profile Keyboard ยังช่วยให้ข้อมืออยู่ในองศาที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น ลดความเมื่อยล้าจากการใช้งานเป็นเวลานานได้ดี
ในขณะที่ Normal Profile Keyboard ขนาด 75% มอบความรู้สึกที่หนักแน่น มั่นคง การพิมพ์บนคีย์บอร์ดประเภทนี้ให้สัมผัสที่ชัดเจนในทุกการกดปุ่ม ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่ต้องการความแม่นยำ การตอบสนองที่ชัดเจน ดีไซน์ที่สูงขึ้นยังให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับคีย์บอร์ดแมคคานิคอลแบบเดิมๆ ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่เกมเมอร์ ผู้ที่ชื่นชอบการพิมพ์ที่มีสัมผัสที่คมชัด
แล้วแบบไหนเหมาะกับเรา?
การเลือกคีย์บอร์ดที่เหมาะกับตัวเองขึ้นอยู่กับสไตล์การใช้งานและความชอบส่วนตัว หากเป็นคนที่ต้องการคีย์บอร์ดที่เบา พกพาสะดวก การตอบสนองที่รวดเร็ว พร้อมฟีลลิ่งการพิมพ์ที่นุ่มนวล Low Profile Keyboard ขนาด 75% อย่าง Keychron K3 Max อาจจะเป็นตัวเลือกที่ใช่สำหรับเพื่อนๆ
แต่ถ้าชื่นชอบฟีลลิ่งการพิมพ์ที่หนักแน่น และ มีระยะการกดที่ลึก ให้สัมผัสที่มั่นคง ชัดเจน Normal Profile Keyboard ขนาด 75% อย่าง Keychron K2 Max ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ได้ดีที่สุด
สรุปแล้ว ไม่ว่าเพื่อนๆ จะเลือก Keychron K3 Max หรือ K2 Max ก็จะได้คีย์บอร์ด 75% คุณภาพสูงที่ตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลาย นอกจากนี้ Keychron ทุกรุ่นยังมาพร้อมการรับประกันคีย์บอร์ดนานถึง 1 ปี อีกทั้งมีบริการหลังการขายจาก Keychron Care โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ซึ่งทั้งหมดนี้รับรองว่าเพื่อนๆ จะได้รับการดูแลที่ดีที่สุดตลอดอายุการใช้งานคีย์บอร์ด ไม่ว่าจะเลือกรุ่นไหนก็ตาม
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เพื่อนๆ ตัดสินใจเลือกคีย์บอร์ดที่ตรงใจได้นะครับ แล้วพบกันใหม่ในบทความต่อไป