เทียบชัด!
Banana Switch vs Red/Brown/Blue
แบบไหนสัมผัสดีสุด?

Banana-Switch-FB.png__PID:e7dc2e84-13e3-41ad-9ae5-ef4ed3f54b75
เปรียบเทียบสวิตช์คีย์บอร์ด Banana, Red, Brown และ Blue – มือกำลังหยิบ Banana Switch เหนือคีย์บอร์ด

สวัสดีครับเพื่อน ๆ ชาว Keychron และคนรักคีย์บอร์ดทุกคน ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา วงการคีย์บอร์ดมีสวิตช์รุ่นใหม่ ๆ เปิดตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านฟีเจอร์และสีสันที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งก็อาจทำให้หลายคน โดยเฉพาะมือใหม่ รู้สึกสับสนกับชื่อเรียกที่แตกต่างกันไปในแต่ละแบรนด์

ไม่แปลกเลยถ้าเพื่อน ๆ จะสงสัยว่า Banana Switch คืออะไร? แล้วมันแตกต่างจาก Red, Brown หรือ Blue ที่เราคุ้นเคยกันอย่างไร?

วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ มาทำความรู้จักกับ Banana Switch สวิตช์ Mechanical ที่กำลังได้รับความนิยม ด้วยจุดเด่นคือเสียงแน่นนุ่มแบบ Thocky Sound สัมผัสลื่นนิ้ว และจังหวะกดแบบ Tactile ที่นุ่มนวล เหมาะกับคนที่กำลังมองหาประสบการณ์การพิมพ์ที่แตกต่างจากสวิตช์ทั่วไป

วันนี้เราอยากชวนเพื่อน ๆ มาทำความรู้จักกับ Banana Switch
แบบเข้าใจง่าย ครบทุกเรื่องที่ควรรู้

กด เลือกอ่านได้เลย

  • Banana Switch Keyboard คืออะไร?
  • Banana Switch รุ่นยอดนิยมมีอะไรบ้าง?
  • Banana Switch เทียบกับ Red, Brown และ Blue
  • ฟังเสียง Banana Switch vs Red, Brown, Blue (Switch Sound Test)

หากเพื่อน ๆ กำลังมองหาสวิตช์ที่ เงียบกว่า Blue ลื่นกว่า Brown และ ให้สัมผัสชัดกว่า Red บทความนี้จะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นแน่นอนครับ

Banana Switch Keyboard คืออะไร?

keychron_silent_banana_switch__PID:abb13f79-abc1-4b48-94dc-9cbea95af82f

หลายคนคงคุ้นเคยกับสวิตช์อย่าง Red, Brown และ Blue ซึ่งแต่ละแบบก็ให้ฟีลลิ่งและเสียงที่แตกต่างกันไป Red ลื่นและเงียบแต่ขาดแรงต้าน, Brown
ให้แรงต้านแบบ Tactile แต่เสียงยังพอมีบ้าง, ส่วน Blue ให้เสียงดังชัดเจนแต่รบกวนคนรอบข้าง

Banana Switch จึงถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อเติมเต็มช่องว่างตรงนี้ โดยเป็นตัวเลือกที่ผสมจุดเด่นของแต่ละแบบอย่างลงตัว ทั้งสัมผัสแบบ Tactile ที่ชัดเจน ลื่นมือแบบ Red และเงียบกว่า Blue

โดยพื้นฐานแล้ว Banana Switch คือ Tactile Switch ที่ให้สัมผัสนุ่มแน่น มีแรงต้านเล็กน้อยตอนกด ให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับ Brown Switch แต่ลื่นเนียนกว่าและเสียงเบากว่า

นอกจากฟีลลิ่งแล้ว เสียงของ Banana Switch ยังมีเอกลักษณ์เฉพาะในแบบ “Thocky” ฟังแล้วแน่น มีมิติ ไม่กลวง ไม่แหลม และไม่ดังจนรบกวนคนรอบข้าง

ด้วยจุดเด่นทั้งหมดนี้ Banana Switch จึงเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคนทำงานที่ต้องการคีย์บอร์ดเสียงเงียบแต่ยังให้สัมผัสการพิมพ์ที่ดีเยี่ยม เช่น

  • พนักงานออฟฟิศ ที่อยากพิมพ์เงียบ ๆ หรืออยู่ในที่ที่ไม่อยากให้เสียงรบกวนใคร
  • สายคอนเทนต์ หรือ Content Writer
  • นักพัฒนา / Developer ที่ชอบฟีลกดแน่นมือ ไม่เบาไป ไม่แข็งไป พิมพ์เพลินได้ยาว ๆ

Banana Switch
รุ่นยอดนิยม

ปัจจุบัน Banana Switch มีให้เลือกหลากหลายรุ่นจากแบรนด์ที่หลายคนน่าจะคุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็น Gateron ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก หรือ Keychron ที่ออกแบบสวิตช์และคีย์บอร์ดร่วมกันอย่างลงตัว

แต่ละรุ่นให้ฟีลลิ่งการพิมพ์ที่แตกต่างกันออกไป บางรุ่นเน้นความลื่นไหลในการกด, บางรุ่นเงียบพิเศษ และบางรุ่นออกแบบมาเพื่อ คีย์บอร์ด Low Profile โดยเฉพาะ

ด้านล่างนี้คือ Banana Switch รุ่นแนะนำที่น่าสนใจ ลองเลือกให้เหมาะกับสไตล์และการใช้งานของเพื่อน ๆ กันได้เลยครับ

Keychron K Pro Banana Switch

keychron-k-pro-banana-tactile-switch.webp__PID:46c8f905-b607-44b0-8c92-511d381c8dc1

รุ่นคลาสสิกของ Keychron ที่ให้สัมผัสแบบ Tactile นุ่มแน่น เสียงเบา จังหวะกดเนียน และทนทานใช้งานได้ยาวนานถึง 50 ล้านครั้ง เหมาะกับคนที่ชอบฟีลคล้าย Brown แต่ต้องการความแน่นและเงียบกว่า

  • ประเภท : Tactile
  • แรงกด : 57±8 gf (ปานกลาง กดนุ่มมือ)
  • เสียง : เงียบแน่น
  • จุดเด่น : รองรับ SMD LED / พรีลูบจากโรงงาน
ข้อมูลจาก Keychron TH (K Pro Switch)

Keychron Super Banana Switch

Keychron-Super-Banana-Switch.webp__PID:a5700cea-bbb2-4acb-a2d8-7008d6ff1d90

เวอร์ชันอัปเกรดของ K Pro เพิ่มความชัดเจนของจังหวะ Tactile และตอบสนองไวขึ้น ด้วยสปริงแบบ Double-Stage เหมาะกับผู้ที่ต้องการความแม่นยำและจังหวะกดที่ชัดทุกครั้ง

  • ประเภท : Tactile
  • แรงกด : 57±8 gf (ปานกลางแต่เด้งไว)
  • เสียง : เงียบนุ่ม
  • จุดเด่น : รองรับ SMD LED / พรีลูบจากโรงงาน
ข้อมูลจาก Keychron Global – Super Switch

Keychron Silent Banana Switch

Keychron Silent Banana Switch.webp__PID:b17d87d7-07b1-412c-adc6-b54d04c1bfbf

รุ่นที่เงียบที่สุดในตระกูล Banana มาพร้อมแผ่นซับเสียงในตัว (Muffler Pad) ที่ช่วยลดเสียงกดได้ชัดเจน แต่ยังคงจังหวะสัมผัสแน่นแบบ Tactile เอาไว้ เหมาะกับคนทำงานตอนดึก ประชุมออนไลน์ หรือใช้ใน co-working space

  • ประเภท : Tactile
  • แรงกด : 55±10 gf (เบา นุ่มมือ กดได้สบายทั้งวัน)
  • เสียง : Crisp bump เบาแต่ชัด
  • จุดเด่น : พรีลูบ / รองรับ SMD LED / โครงสร้างกันฝุ่น
ข้อมูลจาก Keychron TH (K Pro Switch)

Gateron Jupiter Banana Switch (Keychron Exclusive)

Gateron Jupiter Banana Switch (Keychron Exclusive).webp__PID:b2de0e6e-18c1-4682-991c-7a387065fa94

สวิตช์รุ่นพิเศษที่ Gateron พัฒนาร่วมกับ Keychron ให้สัมผัสแบบ Tactile ที่เด้งมือ ตอบสนองไว พร้อมสปริงสองชั้น และแม่พิมพ์ใหม่ที่พิมพ์ได้ลื่นขึ้นกว่ารุ่นเดิม

  • ประเภท : Tactile
  • แรงกด : 59±10 gf (หนักแน่น เด้งมือ ตอบสนองไว)
  • เสียง : แน่น นุ่ม ไม่กลวง เสียงเบากว่า Brown แต่ชัดเจนกว่า Red
  • จุดเด่น : รองรับ SMD LED / พรีลูบ / อายุการใช้งาน 80 ล้านครั้ง
ข้อมูลจาก Keychron Global Gateron – Jupiter Switch Set

Gateron Low Profile 2.0 Banana Switch (KS-33)

Gateron KS-33 Low Profile 2.0 Banana Switch Set.webp__PID:664acc25-e746-4c06-9249-4cb6b1a15f4d

สวิตช์สำหรับคีย์บอร์ด Low Profile โดยเฉพาะ แม้จะมีความสูงต่ำลง แต่ยังให้สัมผัส Tactile ที่แน่นชัด เหมาะกับสายพกพา หรือคนที่ชอบดีไซน์บางเบา แต่ยังอยากได้ฟีลกดมัน ๆ 

  • ประเภท : Tactile
  • แรงกด : 55±10 gf (ปานกลางค่อนไปทางแน่น)
  • เสียง :  เบา แน่น นุ่ม
  • จุดเด่น : โครงสร้างกันฝุ่น / กันเสียงกระแทก / รองรับ SMD LED
ข้อมูลจาก Keychron  TH (Gateron Low Profile 2.0 Banana)

Banana Switch เทียบกับ Red, Brown และ Blue

Banana Switch เทียบกับ Red, Brown และ Blue.webp__PID:7f0451bc-4519-429b-afaf-5e3391e06cf1

ถ้าพูดถึง Mechanical Switch ที่หลายคนคุ้นเคย ก็คงหนีไม่พ้น Red, Brown และ Blue ซึ่งแต่ละแบบก็มีจุดเด่นต่างกัน ทั้งเรื่องเสียงและสัมผัส

แต่ถ้าเพื่อนๆ กำลังลังเลว่า Banana Switch จะให้ฟีลแบบไหน เมื่อเทียบกับสวิตช์ที่เคยใช้งานมาก่อน

ผมขอสรุปให้แบบจับคู่ทีละตัว โดยเล่าจาก ประสบการณ์ใช้งานจริง ไม่อิงแบรนด์ ตัวเลข หรือศัพท์เทคนิค เพื่อให้เข้าใจง่าย เห็นภาพชัด และช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นครับ

Banana Switch vs Brown

Brown Switch ถือเป็นสวิตช์ที่บาลานซ์ได้ดี ให้สัมผัสแบบ Tactile เบาๆ เหมาะกับผู้ที่ต้องการจังหวะกดเล็กน้อยโดยไม่ต้องการเสียงดังหรือแรงต้านชัด ๆ คนที่ใช้ Brown มักจะรู้สึกว่าพิมพ์ได้ลื่นมือ ใช้งานได้หลากหลาย ทั้งทำงานและเล่นเกม

Banana Switch ก็เป็นสวิตช์แบบ Tactile เช่นกัน แต่จะให้ฟีลนุ่มแน่นมากขึ้น จังหวะกดลื่นมือขึ้นเล็กน้อย เสียงทุ้มลงและเงียบกว่า จึงเหมาะกับคนที่ชอบสัมผัสแน่น ๆ แต่ไม่อยากได้เสียงคลิกหรือแรงต้านที่ชัดเกินไป

Banana Switch vs Blue

Blue Switch มีจุดเด่นเรื่องเสียงคลิกที่ชัดเจนและแรงต้านที่รู้สึกได้ชัดหลายคนชอบเพราะให้ความรู้สึกมั่นใจคล้ายพิมพ์ดีด เหมาะกับคนที่ชอบเสียงพร้อมสัมผัสที่เด้ง ๆ

ในทางกลับกัน Banana Switch ไม่มีเสียงคลิกแบบ Blue แต่ยังคงให้สัมผัส Tactile ที่รู้สึกได้เสียงจะเงียบกว่า ฟีลจะนุ่มกว่า และเหมาะกับคนที่ต้องพิมพ์นาน ๆ หรือใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ต้องการความเงียบ เช่น ที่ทำงานหรือ co-working space

Banana Switch vs Red

Red Switch ขึ้นชื่อเรื่องความลื่น เบา และตอบสนองไว เหมาะกับคนที่ชอบพิมพ์เร็วหรือเล่นเกม เพราะการกดแต่ละครั้งไม่มีแรงต้าน ทำให้รู้สึกต่อเนื่อง

Banana Switch ต่างจาก Red ตรงที่มีแรงต้านเล็กน้อยพอดี ๆ สัมผัสจะแน่นมากขึ้น เสียงทุ้มลง เหมาะกับคนที่อยากรู้สึกถึงการกดชัดขึ้น โดยยังคงความนุ่มและไม่มีเสียงคลิกให้รบกวน

 Banana Switch เป็นสวิตช์ที่ผมรู้สึกว่าอยู่ตรงกลางพอดี ไม่เบาไป ไม่แข็งไป ฟีลตอนพิมพ์แน่นนิด ๆ แบบที่รู้สึกได้ แต่ก็ยังลื่นไม่ต้านนิ้ว ถ้าใช้งานจริงจะเงียบกว่า Blue ลื่นกว่า Brown และให้สัมผัสชัดกว่า Red เหมาะกับคนที่อยากได้ฟีลพิมพ์มัน ๆ โดยไม่รบกวนคนรอบข้าง โดยรวมแล้ว Banana Switch มีความบาลานซ์ทั้งในด้านเสียงและสัมผัส ใช้งานได้ทุกวัน ทุกสถานที่ครับ “

ลองฟังเสียง Banana Switch vs Red,Brown, Blue (Switch Sound Test)

ต่อมาเป็นเรื่องของเสียง ซึ่งหลายคนอาจไม่ได้สนใจสเปกหรือตัวเลขทางเทคนิคมากนัก แต่เลือกจากเสียงที่ฟังแล้ว รู้สึกชอบเป็นหลักมากกว่า ในหัวข้อนี้ ผมเลยเตรียมเสียงของแต่ละ Switch มาให้เพื่อน ๆ ลองกดฟัง เผื่อจะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นครับ

Red Nano Switch
🔊 Play Audio
Red
Linear
Blue Switch
🔊 Play Audio
Blue Switch
Clicky
Brown Switch
🔊 Play Audio
Brown Switch
Tactile
Banana Switch
🔊 Play Audio
Banana Switch
Tactile

หมายเหตุ : เสียงในคลิปอัดจากการใช้งานจริง โดยไม่มีการแต่งเสียงหรือใส่เอฟเฟกต์ใด ๆ ทั้งนี้ เสียงที่ได้อาจแตกต่างเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับรุ่นคีย์บอร์ด วัสดุเคส Keycap และการคัสตอม เสียงที่นำมาให้ฟังจึงเป็นเพียงแนวเสียงหลัก เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจเบื้องต้นครับ

แล้วสวิตช์แบบไหนฟีลดีที่สุด?

สุดท้ายแล้ว คงไม่มีคำตอบที่แน่ชัดแบบเป๊ะ ๆ เพราะฟีลลิงในการพิมพ์เป็นเรื่องของความรู้สึกส่วนตัวที่แต่ละคนสัมผัสและตีความต่างกันไป Banana Switch อาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับใครหลายคนที่ต้องการความแน่นแต่นุ่ม เสียงไม่ดังจนรบกวนคนรอบข้าง

แต่ในอีกมุมหนึ่ง Red, Brown หรือ Blue Switch ก็ยังคงมีเสน่ห์เฉพาะตัวที่หลายคนชื่นชอบ สุดท้ายแล้ว สวิตช์ที่ดีที่สุดก็คือสวิตช์ที่เราชอบและใช้งานได้จริงในทุกวัน ไม่ว่าจะเป็น Banana, Red, Brown หรือ Blue ขอแค่พิมพ์แล้วรู้สึกดี หรืออยากสลับฟีลบ้างตามอารมณ์

เอาเป็นว่า ถ้าจะให้สรุปแบบเข้าใจง่าย ๆ Banana Switch คือ หนึ่งในสวิตช์ที่ให้สมดุลพอดีทั้งความพิมพ์สนุก เสียงไม่ดังเกินไป มีจุดตอบสนองที่ชัดเจน และไม่ลื่นจนควบคุมยาก หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เพื่อนๆ คลายความสงสัยได้บ้างนะครับ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า

สนใจ Banana Switch พร้อมคีย์บอร์ด?

ถ้าเพื่อน ๆ กำลังมองหาคีย์บอร์ดที่มาพร้อม Banana Switch ตั้งแต่แกะกล่อง ขอแนะนำ Keychron KX Series (Normal Profile) ที่รวมทั้งดีไซน์เรียบเท่และฟีลลิ่งการพิมพ์สุดนุ่มนวล

แม้จะมาในโฉมใหม่ ‘New Model K’ แต่ยังคงความคลาสสิกแบบมินิมอลในสไตล์ K Series ที่หลายคนชื่นชอบ พร้อมฟีเจอร์ใหม่ที่ใช้งานคล่องตัวและสะดวกยิ่งขึ้น พร้อมราคาที่เข้าถึงง่าย

Keychron K10X QMK Wireless Mechanical Keyboard ไฟลอด
Keychron K10X QMK Wireless Mechanical Keyboard
Keychron K10X QMK Wireless Mechanical Keyboard  – Full-size
KeychronK10XQMKWirelessMechanicalKeyboard
Keychron K10X QMK Wireless Mechanical Keyboard
Keychron K10X QMK Wireless Mechanical Keyboard
Keychron K10X QMK Wireless Mechanical Keyboard
Keychron K10X QMK Wireless Mechanical Keyboard
Keychron K10X QMK Wireless Mechanical Keyboard ไฟลอด
Keychron K10X QMK Wireless Mechanical Keyboard
Keychron K10X QMK Wireless Mechanical Keyboard  – Full-size
KeychronK10XQMKWirelessMechanicalKeyboard
Keychron K10X QMK Wireless Mechanical Keyboard
Keychron K10X QMK Wireless Mechanical Keyboard
Keychron K10X QMK Wireless Mechanical Keyboard
Keychron K10X QMK Wireless Mechanical Keyboard
Keychron K10X QMK Wireless Mechanical Keyboard
3,790.00 ฿
 คีย์บอร์ด Keychron K2X ขนาด 75% ดีไซน์กะทัดรัด พร้อมไฟ RGB และคีย์แคปภาษาไทย
Keychron K2X QMK Wireless Mechanical Keyboard
eychron K2X คีย์บอร์ดไร้สาย 75% ตัวเครื่องกะทัดรัด ขาตั้งปรับองศาได้ เหมาะสำหรับพกพา
K2X เชื่อมต่อได้ 3 อุปกรณ์ผ่าน Bluetooth หรือ USB-C ใช้งานได้ทั้ง macOS และ Windows
Keychron K2X QMK Wireless Mechanical Keyboard
Keychron K2X QMK Wireless Mechanical Keyboard
 คีย์บอร์ด Keychron K2X ขนาด 75% ดีไซน์กะทัดรัด พร้อมไฟ RGB และคีย์แคปภาษาไทย
Keychron K2X QMK Wireless Mechanical Keyboard
eychron K2X คีย์บอร์ดไร้สาย 75% ตัวเครื่องกะทัดรัด ขาตั้งปรับองศาได้ เหมาะสำหรับพกพา
K2X เชื่อมต่อได้ 3 อุปกรณ์ผ่าน Bluetooth หรือ USB-C ใช้งานได้ทั้ง macOS และ Windows
Keychron K2X QMK Wireless Mechanical Keyboard
Keychron K2X QMK Wireless Mechanical Keyboard
Keychron K2X QMK Wireless Mechanical Keyboard
3,590.00 ฿
คีย์บอร์ด Mechanical แบบ 96% ประหยัดพื้นที่แต่ครบฟังก์ชัน รองรับ QMK, Hot-swappable, Super Switch พร้อมไฟ RGB และใช้งานได้ทั้ง macOS / Windows
Keychron K4X QMK Wireless Mechanical Keyboard
Keychron K4X QMK Wireless Mechanical Keyboard
 Keychron K4X คีย์บอร์ด Mechanical 96% รองรับ QMK และ Hot-swappable
eychron K4X คีย์บอร์ดไร้สายสำหรับทำงานและเล่นเกม รองรับ macOS และ Windows
Keychron K4X QMK Wireless Mechanical Keyboard
Keychron K4X QMK Wireless Mechanical Keyboard
คีย์บอร์ด Mechanical แบบ 96% ประหยัดพื้นที่แต่ครบฟังก์ชัน รองรับ QMK, Hot-swappable, Super Switch พร้อมไฟ RGB และใช้งานได้ทั้ง macOS / Windows
Keychron K4X QMK Wireless Mechanical Keyboard
Keychron K4X QMK Wireless Mechanical Keyboard
 Keychron K4X คีย์บอร์ด Mechanical 96% รองรับ QMK และ Hot-swappable
eychron K4X คีย์บอร์ดไร้สายสำหรับทำงานและเล่นเกม รองรับ macOS และ Windows
Keychron K4X QMK Wireless Mechanical Keyboard
Keychron K4X QMK Wireless Mechanical Keyboard
Keychron K4X QMK Wireless Mechanical Keyboard
3,690.00 ฿

ไฮไลต์ของ KX Series

  • มาพร้อมคีย์ไทย + ไฟ RGB สวยโดดเด่น
  • เชื่อมต่อได้ทั้ง Bluetooth 5.2 และ USB-C
  • Hot-swappable เปลี่ยนสวิตช์เองได้
  • ตั้งค่ามาโคร/คีย์ลัด ผ่าน Keychron Launcher Web App
  • รองรับทั้ง macOS / Windows / Linux
  • เหมาะทั้งทำงาน พิมพ์งาน หรือเล่นเกม

อยากลองกด คีย์บอร์ด Banana Switch ก่อนซื้อ? 

Keychron-Central-Westgate.jpg__PID:86cc3530-01d3-4eaf-9b27-39f37f91b0be

 แวะทดลองได้ที่ Keychron Store หรือร้านไอทีชั้นนำใกล้บ้าน

ค้นหาสาขา Keychron
ใกล้คุณ
Keychron-Central-Westgate.jpg__PID:86cc3530-01d3-4eaf-9b27-39f37f91b0be
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

Banana Switch คืออะไร?

Banana Switch เป็นสวิตช์ประเภท Tactile ที่ให้สัมผัสแน่นแต่นุ่ม เสียงเงียบ เหมาะกับคนที่ทำงานในออฟฟิศ หรืออยู่ในที่ ที่ไม่อยากให้เสียงรบกวนใคร

Banana Switch เหมาะกับใคร?

เหมาะกับคนที่พิมพ์งานนาน ๆ เช่น พนักงานออฟฟิศ, นักเขียนคอนเทนต์ หรือ Developer ที่ต้องการความเงียบแต่ยังได้สัมผัสการกดที่ชัดเจน

Banana Switch ต่างจาก Brown ยังไง?

ทั้งสองเป็น Tactile Switch แต่ Banana จะให้สัมผัสแน่นกว่า ลื่นกว่า และเสียงเงียบกว่าจึงพิมพ์สนุกกว่าโดยไม่รบกวนคนรอบข้าง

Banana Switch กับ Red ต่างกันแค่ไหน?

Red จะเบาและลื่นกว่า แต่ไม่มีแรงต้าน ขณะที่ Banana มีแรงต้านพอดี ทำให้ควบคุมการกดได้ดีและให้ฟีลลิ่งที่เด่นชัดกว่า

Banana Switch เงียบกว่า Blue จริงไหม?

Banana ไม่มีเสียงคลิกดังแบบ Blue จึงเหมาะกับการใช้งานในห้องประชุม หรือ co-working space ที่ต้องการความเงียบ

Banana Switch ใช้เล่นเกมได้ไหม?

สามารถใช้ได้ครับ โดยเฉพาะกับเกมที่ต้องการความรู้สึกในการกด ไม่เบาเกินไป และไม่รบกวนเสียงรอบข้าง

มีคีย์บอร์ดรุ่นไหนที่ใช้ Banana Switch ได้บ้าง?

คีย์บอร์ด Keychron KX Series รุ่น K2X , K4X และ K10X มาพร้อม Banana Switch